

ที่มา
International Charity Fun for Future of Fencing: The
Opposition between French and Italian fencing school
ฝรั่งเศสเริ่มพัฒนาวงการฟันดาบของตนเองในศตวรรษที่
๑๗ โดยเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปแบบของและเทคนิคการใช้ดาบของตน
ในขณะที่อิตาลีกลับยังคงรักษารูปลักษณ์ดาบของตนไว้อย่างมั่นคง
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความแตกต่างระหว่างโรงเรียนดาบของฝรั่งเศสกับโรงเรียนดาบของอิตาลีที่เดินแยกไปคนละทางจวบจนศตวรรษที่
๑๙ ในครึ่งหลังของศตวรรษที่ ๑๘
ฝรั่งเศสได้พัฒนาวงการฟันดาบของตนจนก้าวหน้ากว่าวงการดาบของอิตาลี ตัวอย่างเช่น
ฝรั่งเศสเริ่มมีการนำหน้ากากมาใช้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ในช่วงนี้โรงเรียนดาบฝรั่งเศสเน้นการสอนการปัดดาบและเทคนิคการทำให้ดาบคู่ต่อสู้หลุดจากมือ
แต่เทคนิคนี้ได้ถูกห้ามใช้ในการเล่นดาบปัจจุบัน
หลังจากที่วงการดาบได้นำหน้ากากป้องกันใบหน้าออกมาใช้งานส่งผลให้มีการพัฒนาเทคติกในการเล่นดาบสูงมากยิ่งขึ้น
นี่เองก่อให้เกิดการแข่งขันในวิธีการสอนในประเทศฝรั่งเศสโดยแบ่งออกเป็น
๒ ค่าย คือ (1) ค่ายแรกเป็นค่ายอนุรักษ์นิยม ประกอบด้วย Bertrand,
La Buasier, Cordenua, Bondi (2) ส่วนอีกค่ายเป็นกลุ่มก้าวหน้าคือ
กลุ่มที่มี Lafoger เป็นผู้นำการสอน Lafoger แม้ว่าจะเตี้ยแต่มีความว่องไวสูงมาก
เขาเริ่มเดินทางไปปารีสเพื่อทดสอบทฤษฎีดาบใหม่ของเขาในสนามประลองจริงกับนักดาบแนวหน้าพวกค่ายอนุรักษ์นิยม
เช่น Count Bondi เขาสามารถเอาชนะนักดาบนักดาบแนวหน้าของกลุ่มอนุรักษ์นิยมท่ามกลางพยานปรมาจารย์ดาบ
ตั้งแต่นั้นมาดาบไม่ใช่แค่ศิลปเท่านั้นแต่มันหมายถึงเทคนิคและยุทธวิธีดาบในการเอาชนะคู่แข่งขันด้วย
ในช่วงของการแข่งขันของสองโรงเรียนนี้ก่อให้เกิดเทคนิคและยุทธวิธีดาบเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามโดยมีกระบวนคิดอย่างมีเหตุมีผลมากกว่าความเคยชินที่ทำกันมาหรือเพื่อความสวยงามแต่เพียงอย่างเดียว
มีการจัดทำกระบวนท่าการตอบรับอย่างซับซ้อน
ซึ่งกระบวนท่าเหล่านี้กลายเป็นคุณลักษณะเฉพาะของโรงเรียนดาบค่ายฝรั่งเศส
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 จรดศตวรรษที่ 19 ดาบค่ายฝรั่งเศสมีอิทธิพลสูงมากเหนือประเทศอิตาลี
ยิ่งไปกว่านั้นฝรั่งเศสไม่เพียงเผยแพร่การสอนดาบผ่านครูดาบชาวฝรั่งเศสเท่านั้น
ยังมีการแนะนำและเผยแพร่อาวุธดาบของตนไปยังอิตาลีไปพร้อมกันด้วย ไม่นานอิตาลีทางเหนือซึ่งถูกยึดครองโดยฝรั่งเศสได้พัฒนารูปแบบโครงสร้างดาบและด้ามจับ
(Grip) เป็นแบบใหม่ๆ
ส่งผลให้เกิดเทคนิคและยุทธวิธีการใช้ดาบแบบใหม่ๆ ตามไปด้วย
และในที่สุดทำให้เกิดโรงเรียนดาบในอิตาลีแบ่งออกเป็น 3 ค่าย
คือ (1) ค่ายทางตอนเหนือนำโดย Radaelli ซึ่งเขานิยมการสอนแบบฝรั่งเศส (2) ค่ายอิตาลีตอนใต้นำโดยครอบครัวตระกูล
Parie ซึ่งนิยมดาบสไตล์อิตาลี (3) ค่ายอิตาลีตอนกลางนำโดย
Marcianni ซึ่งนิยมนำส่วนที่ดีของทั้งสองค่ายแรกมาใช้
ในปี 1879 รัฐบาลอิตาลีได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อทำหน้าที่รวมการสอนของค่ายต่างๆ
เข้าด้วยกัน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ค่อนข้างเป็นกลุ่มชาตินิยมโดยนำระบบของวิทยาลัยดาบ
The Neapolitan Academy ของ ศาสตราจารย์
Mazaniello Parize มาใช้เป็นมาตรฐานของอิตาลี ไม่ว่าแต่ละค่ายมีความแตกต่างกันอย่างไรก็ตาม
ทุกค่ายมีสิ่งที่เหมือนกันตามกฎของดาบก็คือ "one must keep in mind
that fencing as an art of hitting without being hit." นั่นก็คือนักดาบทุกนายจะต้องฟันหรือแทงให้โดนคู่ต่อสู้ในขณะที่ต้องหลบหลีกจากการถูกฟันหรือแทงให้ได้