การเริ่มต้นความเจริญที่ยั่งยืนของวงการฟันดาบจากการเข้าร่วมการประชุมฯของสมาคมในเดือนกุมภาพันธ์ ณ โรงเรียนนายเรืออากาศ ดอนเมือง ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของการจัดการแข่งขัน คือการมีผู้จัดการแข่งขันหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้นและมีการสอดประสานในระดับน่าสนใจ คณะกรรมการชุดเดิมไม่ต้องสวมบทบาททศกัณฑ์อีกแล้ว  ทำให้ผมอดนึกย้อนไปสมัยจัดการแข่งขัน NAVY FENCING OPEN ครั้งแรกไม่ได้เพราะตอนนั้น กองทัพเรือยังไม่เคยจัดการแข่งขันฟันดาบ ในรูปแบบ OPEN เลย อีกทั้งโรงยิมโรงเรียนนายเรือ ก็ไม่เคยสัมผัส สนามแข่งขันฟันดาบจำนวนมากๆ ที่แต่เดิมผมเรียกว่าสนามแข่งขันฟันดาบว่า ปรินส์ ซึ่งคำเรียกนี้เป็นการเรียกต่อๆกันมา อาจจะเกิดการผิดเพี้ยนจากการที่เป็นอุปกรณ์ที่แพง และ ชมรมต่างๆที่เบี้ยน้อยหอยน้อย ไม่มีสิทธิ์ซื้อมาครอบครอง และการจัดทำขึ้นก็ยากและมีราคาแพงเช่นกัน หากชมรมใดได้สนามแข่งขันมาครอบครอง การรักษาอุปกรณ์ชนิดนี้ย่อมต้องดูแลอย่างดีประดุจเจ้าชาย จึงอาจเพี้ยนจากคำว่า ปิส (Piste) เป็นคำว่า ปรินส์ ก็เป็นได้   เขียนมาซะยืดยาวขอเข้าเรื่องซะที  ก่อนการจัดการแข่งขันผมจึงขออนุญาตลาราชการ ขณะนั้นผมปฏิบัติงานที่กองสื่อสาร กองเรือยุทธการ ตอนนั้นนาวาเอกลือชัย รุดดิษฐ์ เป็นผู้อำนวยการกอง จึงถือโอกาสขอบคุณพี่เขาที่ให้การสนับสนุน ทั้งให้ผมมาช่วยจัดการเรื่องจัดสถานที่และเป็นหนึ่งในสปอนด์เซอร์สนับสนุนการจัดการแข่งขัน NAVY FENCING OPEN ครั้งที่1 ด้วย โดยผ่าน   พี่ศูนย์ปืน  ทางชมรมฟันดาบกองทัพเรือพิจารณาสถานที่จัดการแข่งขันคือโรงยิมโรงเรียนนายเรือตามความฝันของนักกีฬาฟันดาบกองทัพเรือว่าอยากจัดการแข่งขันแบบโอเพ่นส์ในโรงเรียนนายเรือ และต้องเป็นการจัดที่มีมาตรฐานระดับโลก ทั้งสถานที่และปฏิบัติตามกฎกติกา ซึ่งโรงยิมดังกล่าวเป็นลักษณะพื้นปาเก้แบบโรงยิมโบราณทั่วไปและทำหน้าที่ได้หลายหน้าที่คือสนามบาสเก็ตบอล สนามแบดมินตัน และสนามตะกร้อในบางครั้งก็จัดเป็นห้องสอบ วันแรกที่เข้าไปสำรวจและแจ้งความต้องการแก่ เจ้าหน้าที่ดูแลโรงยิม ทางเจ้าหน้าที่ก็กลัวสนามเป็นรอย เกิดความกังวลหากเกิดความเสียหายจากการจัดวางสนามแข่งขัน และอื่นๆอีกมากมาย งานนี้ผมต้องแจ้งให้พี่ศูนย์ปืนทราบถึงอุปสรรค และขอให้ช่วยประสานขออำนวยความสะดวกให้ด้วย ผมเลยแก้ปัญหาไปได้ส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นก็เดินสำรวจเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้สนับสนุนในการจัดเตรียมสนามแข่งขัน ตามคลังต่างๆ ในหน่วยขึ้นตรงของโรงเรียนนายเรือในเบื้องต้นว่าอะไรสามารถนำมาสนับสนุนการแข่งขันได้บ้าง ช่วงเย็นก็ผมก็ไปสืบค้นในอินเทอร์เน็ตว่าต้องสถานที่ที่จัดเตรียมการแข่งขันเป็นอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านั้นผมได้สอบถามจากนักกีฬากองทัพเรือที่เคยไปแข่งในระดับนานาชาติมาแล้วว่าลักษณะสนามการแข่งขัน ที่ดีเป็นอย่างไร เพื่อนำมาวางแผนการจัดสนามโดยต้องจินตนาการว่าจะให้ดีกว่าที่เคยจัดในเมืองไทยอย่างไร    เพราะอยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีในมิติการจัดการแข่งขันในประเทศ หลังจากนั้นก็วาดแผนผังการจัดวางคร่าวๆว่าต้องวางสนาม และตั้งโต๊ะ แบ่งโซนนิ่งอย่างไร ในกระดาษ และลำดับวิธีการขนย้ายและทำความสะอาดในวันที่สองสำรวจคลังต่างๆอีกครั้ง  ช่วงแรกๆการขอรับการสนับสนุนไม่ค่อยคล่องตัวเนื่องจากผมใช้ความคุ้นเคยซึ่งในระบบราชการจะต้องขอรับการสนับสนุนเป็นเอกสาร จึงโทรศัพท์ไปถึงพี่ศูนย์ปืนอีกครั้งจากที่ทราบภายหลังงานนี้พี่ศูนย์ปืนขอให้ครูสมเดช ยกหูโทรศัพท์ขอให้ทางโรงเรียนนายเรือสนับสนุนเต็มที่ วันนี้คล่องไปหมด  อยากได้อะไรก็ได้ เป็นภาวะของความคล่องตัวอย่างมาก การยืมเครื่องมือ เครื่องใช้ เดินไปคลังไหน หน่วยไหนเปิดให้หมดอยากได้อะไรก็ง่ายไปหมด หลังจากนั้นผมก็เริ่มจัดเตรียมสถานที่ ตอนแรกก็จะดำเนินการตามที่วางแผนไว้ในกระดาษ เอาเข้าจริงๆมีอะไรต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเสมอ ลองผิดลองถูกไปเรื่อย บางครั้งก็ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่รับผิดชอบสถานที่และเครื่องมือต่างๆทั้งประทวน และ สัญญาบัตรทำให้งานลุล่วงไปได้ด้วยดี   เมื่อใกล้วันแข่งขันทั้งพี่ๆน้องๆในชมรมก็สามารถปลีกตัวมาช่วยเหลือได้ ขอใช้ศัพท์ผู้รับเหมาว่ามาช่วยเหลือหน้างาน ทำให้งานนี้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างทำให้ผมเบามือไปมากหลังจากดำเนินการมาหลายวัน หลังจากนั้นการจัด NAVY FENCING OPEN ก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็นการแข่งขันที่เป็นหนึ่งในการแข่งขันที่นักฟันดาบไทยอยากเล่นมาที่สุด

          ที่เขียนเล่าประสบการณ์มาข้างต้นเนื่องจากผมมองว่าหากเปรียบเทียบกับการลองผิดลองถูกของผมและนักดาบกองทัพเรือคนอื่นๆแล้วมาต่อยอดจนเกิดผลที่น่าพึงพอใจและประกอบกับมีผู้สนใจอาสาสมัครมาร่วมกันจัดการแข่งขันแบบหลากหลายมากๆกับมีความตั้งใจมาร่วมกันจัดการแข่งขันแล้ว แถมได้ลองปฏิบัติโดยได้รับคำแนะนำจากผู้จัดที่ประสบการณ์มาแล้ว  อีกไม่นานเราจะเกิดผู้จัดฯที่มีความสามารถที่เหนือกว่าผู้จัดการแข่งขันในโลกเพราะเกิดความชำนาญและเกิดการกระจายตัวไปในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศหากเป็นไปได้กระจายไปทั่วโลกย่อมเกิดผลดีกับวงการดาบไทย และผลพลอยได้หากเกิดจากการจ้างงานให้ทีมงานคนไทยจัดการแข่งขันในระดับนานาชาติแล้ว ย่อมทำให้เกิดการจ้างงานและก่อให้เกิดรายได้เข้าสู่ประเทศ หากให้เกิดผลดีสูงสุดเราควรจะมีนักกีฬาฟันดาบที่มีฝีมือระดับโลก พร้อมกับมีโค้ชในระดับนานาชาติ