องค์ความรู้ > บทความพิเศษ > จะใช้หลักธรรมาภิบาลมาใช้ในสมาคมฟันดาบแน่หรือ จะทำได้มั้ย?
จะใช้หลักธรรมาภิบาลมาใช้ในสมาคมฟันดาบแน่หรือ จะทำได้มั้ย?

การใช้หลักธรรมาภิบาล หรือ  good governance   ในสมาคมฟันดาบแบบ ตามที่ผู้บริหารสมาคมฯวางแนวทางการบริหารไว้เช่นนั้น  มารู้จัก คำว่า good governance  นี้เกิดมาจากธนาคารโลก ร้องขอให้ประเทศต่างๆ ในโลก รวมทั้ง ไทยเราเองด้วย ที่กู้เงินไป ให้ใช้หลักการนี้ เป็นหลักในการบริหารประเทศเพราะที่ผ่านๆมา  ประเทศเหล่านี้ไม่ทราบว่ารวมถึงไทยด้วยรึเปล่า ชักดาบเงินกู้เป็นประจำ  ธนาคารโลกก็คิดว่าถ้าประเทศต่างๆที่กู้ไป ยึดหลักนี้แล้ว เงินกู้ที่กู้ไปจะได้คืน แล้วจะเกิดผลดีเป็นวงกว้างสำหรับคนในโลกทำนองนั้น  ที่นี้ หลักธรรมาภิบาลเป็นยังไงหละ  มาดูหลักทั้ง 6 ของธรรมาภิบาลและคำอธิบาย ดังนี้        


                                                     

1. หลักนิติธรรม คือ การตรากฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบังคับและกติกาต่าง ๆ ให้ทันสมัยและเป็นธรรม ตลอดจนเป็นที่ยอมรับของสังคมและสมาชิก โดยมีการยินยอมพร้อมใจและถือปฏิบัติร่วมกันอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม กล่าวโดยสรุป คือ สถาปนาการปกครองภายใต้กฎหมาย มิใช่กระทำกันตามอำเภอใจหรืออำนาจของบุคคล

 

2. หลักคุณธรรม คือ การยึดถือและเชื่อมั่นในความถูกต้องดีงาม โดยการรณรงค์เพื่อสร้างค่านิยมที่ดีงามให้ผู้ปฏิบัติงานในองค์กรหรือสมาชิกของสังคมถือปฏิบัติ ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริตความเสียสละ ความอดทนขยันหมั่นเพียร ความมีระเบียบวินัย เป็นต้น

 

3. หลักความโปร่งใส คือ การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา และสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้โดยการปรับปรุงระบบและกลไกการทำงานขององค์กรให้มีความโปร่งใสมีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้สะดวก ตลอดจนมีระบบหรือกระบวนการตรวจสอบและประเมินผลที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะเป็นการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และช่วยให้การทำงานของภาครัฐและภาคเอกชนปลอดจากการทุจริตคอรัปชั่น         

 

4. หลักความมีส่วนร่วม คือ การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ และร่วมเสนอความเห็นในการตัดสินใจสำคัญ ๆ ของสังคม โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีช่องทางในการเข้ามามีส่วนร่วม ได้แก่ การแจ้งความเห็น การไต่สวน สาธารณะ การประชาพิจารณ์การแสดงประชามติ หรืออื่น ๆ และขจัดการผูกขาดทั้งโดยภาครัฐหรือโดยภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสามัคคีและความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชน           

 

5. หลักความรับผิดชอบ ผู้บริหาร ตลอดจนคณะข้าราชการ ทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ ต้องตั้งใจปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่อย่างดียิ่ง โดยมุ่งให้บริการแก่ผู้มารับบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีความรับผิดชอบต่อความบกพร่องในหน้าที่การงานที่ตนรับผิดชอบอยู่ และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ทันท่วงที 

         

6. หลักความคุ้มค่า ผู้บริหาร ต้องตระหนักว่ามีทรัพยากรค่อนข้างจำกัด ดังนั้นในการบริหารจัดการจำเป็นจะต้องยึดหลักความประหยัดและความคุ้มค่า ซึ่งจำเป็นจะต้องตั้งจุดมุ่งหมายไปที่ผู้รับบริการหรือประชาชนโดยส่วนรวม 

 

ในเรื่องนี้  อาจารย์ ถวิลวดี บุรีกุล ได้ให้ความเห็นว่า ธรรมาภิบาลจึงเป็นเรื่องของหลักการบริหารแนวใหม่ ที่มุ่งเน้นหลักการ โดยมิใช่หลักการที่เป็นรูปแบบทฤษฎีการบริหารงาน แต่เป็นหลักการการทำงาน ซึ่งหากมีการนำมาใช้เพื่อการบริหารงานแล้ว จะเกิดความเชื่อมั่นว่าจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือ ความเป็นธรรม ความสุจริต ความมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล

 

 ที่เอาหละ สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นทำไปถึงไหนขนาดใด แล้วจะทำได้รึ ทำตามหลักใดหลักหนึ่งแล้วไปขัดกับหลักอื่นรึเปล่า  อันนี้ไม่ขอตอบแต่นะครับแต่ผมจะเรียนให้ท่านทราบว่าการนำหลักธรรมาภิบาล มาเป็นหลักการทำงาน  ต้องมีเป้าหมาย แล้วเป้าหมายเป็นอย่างไรหละ มาพิจารณากันนะว่าจะมีเป้าหมายอย่างงั้นรึเปล่า

 

ตามรายละเอียด ดังนี้

- เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เป็นการจัดสรรทรัพยากรเป็นอย่างสมดุลแก่ทุกกลุ่ม

- มีความสุจริต ไม่ผิดไปจากความถูกต้อง (Integrity)

- มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล

 

ที่นี้ เราจะทำให้เกิดธรรมาภิบาลอย่างไร คำตอบน่าจะเป็นการมีสังคมที่เป็นธรรมาภิบาล แล้วสังคมที่ว่าเป็นอย่างไร เงื่อนไขที่จะเป็นสังคมที่มีธรรมาภิบาล หละเป็นอย่างไร คำถามดังกล่าวมีคำตอบดังนี้

 

การมีกฎเกณฑ์ ระเบียบที่รองรับหลักธรรมาภิบาล

มีวัฒนธรรมธรรมาภิบาลในสังคม

การมีกลไกตรวจสอบการเข้าสู่อำนาจการบริหารที่มีประสิทธิภาพ

การมีผู้ตรวจสอบที่เป็นอิสระและซื่อตรง

 

แบบนี้องค์ของเราควรจะ หรือจะต้อง เป็นองค์กรที่บริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลใช่มั้ย

ในความเห็นของกระผมเห็นว่าองค์กรของเราจะต้องใช้หลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารเป็นอย่างยิ่ง

ที่นี้คำถามที่ว่าองค์กรของเราจะทำได้มั้ย คำตอบนี้ต้องดูกันต่อไป