องค์ความรู้ > บทความพิเศษ > สี่สมดุลย์ในการพัฒนาดาบ
สี่สมดุลย์ในการพัฒนาดาบ

Balanced Scorecard เป็นกลยุทธ์ในการบริหารงานสมัยใหม่ และได้รับความนิยมไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย Balanced Scorecard ได้ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อปี 1990 โดย Drs. Robert Kaplan จาก Harvard Business School และ David Norton จากBalanced Scorecard Collaborative โดยตั้งชื่อระบบนี้ว่า ?Balanced Scorecard? เพื่อที่ผู้บริหารขององค์กรจะได้รับรู้ถึงจุดอ่อน และความไม่ชัดเจนของการบริหารงานที่ผ่านมา balanced scorecard จะช่วยในการกำหนดกลยุทธ์ในการจัดการองค์กรได้ชัดเจน โดยดูจากผลของการวัดค่าได้จากทุกมุมมอง เพื่อให้เกิดดุลยภาพในทุก ๆ ด้าน มากกว่าที่จะใช้มุมมองด้านการเงินเพียงด้านเดียว อย่างที่องค์กรธุรกิจส่วนใหญ่คำนึงถึง เช่น รายได้ กำไร ผลตอบแทนจากเงินปันผล และราคาหุ้นในตลาด เป็นต้น การนำ balanced scorecard มาใช้ จะทำให้ผู้บริหารมองเห็นภาพขององค์กรชัดเจนยิ่งขึ้น

 

ในมุมมองของฟันดาบเพื่อการก้าวไปสู่ความสำเร็จ ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โมเดล Balanced Scorecard เป็นรูปแบบที่น่าสนใจ และตรงกับสิ่งที่สมาคมฟันดาบดำเนินการอยู่ในขณะนี้ การไปสู่ความสำเร็จในมุมมองของ BS คือการรักษาดุลย์ทั้งสี่ส่วนขององค์กรฟันดาบเรา (สี่ส่วนนี้คือ กรอบสี่เหลี่ยมสีเขียว ทั้งสี่ในรูป) ไม่หนักไปในทางใดทางหนึ่ง BS นั้นจะไม่เน้นในเรื่องของเงิน จึงนำมาใช้กับเราซึ่งเป็นองค์กรที่มิได้มุ่งสู่ผลประโยชน์ ผมจะเขียนเรื่องนี้โดยไม่เน้นไปในทางเชิงวิชาการมากนัก โดยสรุปสั้นๆดังนี้

 

" การสร้างภาพพจน์ ปัจจุบันถ้าตั้งคำถาม ถามคนไทยทั้งประเทศว่ากีฬาอะไรที่คนไทยคิดถึงเป็นลำดับแรกๆ ผมคาดว่าเกือบทุกคนจะตอบว่า ฟุตบอล มวย เทนนิส กอล์ฟ เทควันโด ยกน้ำหนัก แบดมินตัน เนื่องจากกีฬาที่กล่าวมานี้ล้วนมี Hero เป็นพื้นฐาน กีฬาฟันดาบนั้นแทบจะไม่มีใครคิดถึง ภาพพจน์ หรือการมี Brand ให้อยู่ในใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ ในโลกธุรกิจทุกบริษํัทล้วนมีตราสัญลักษณ์ให้ลูกค้าจดจำได้ เมื่อนึกถึงรถชั้นยอดก็จะนึกถึงตราสามแฉกของเบนซ์ ลูกค้านั้นเมื่อเชื่อถือแล้วก็จะกลายเป็นผู้ภักดีต่อ Brand นั้นๆโดยไม่รู้ตัว และอาจทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เป็นกระบอกเสียงให้โดยเต็มใจ ในส่วนของฟันดาบนั้นคงต้องสร้างภาพพจน์ให้เป็นที่รู้จัก และอาจต้องหา Logo ที่มองเห็นแล้วรู้ทันทีว่านี่คือฟันดาบ    ที่จริงในห้วงที่ผ่านมาฟันดาบก็เป็นที่รู้จักต่อสาธารณะชน เป็น Talk of the Town ที่ใครๆพูดถึง ถึงแม้ว่าจะเป็นแง่ลบในเรื่องของข่าว คงต้องผลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปัจจุบันสมาคมฟันดาบฯในยุคใหม่เราจะเห็นมีข่าวเผยแพร่ทางสื่อโดยต่อเนื่อง และ Website ของเราก็กำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดี ต่อไปเราอาจหาคนแปลให้เป็น 8 ภาษา เพื่อให้คนรู้จักกันทั้งโลก เป้าหมายก็คือ ต้องทำให้กีฬาฟันดาบเป็นรู้จักในลำดับแรกๆ

 

องค์กรแห่งการเรียนรู้ หมายถึงการพัฒนาบุคลากรทุกคน ภายในองค์กรฟันดาบของเรา ให้มีภูมิความรู้ในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับดาบใกล้เคียงกัน และให้เขารู้ว่าเขาจะสามารถเพิ่มพูนองค์ความรู้ได้จากที่ไหน ทำอย่างไรให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อขยายฐานองค์ความรู้ออกไปในวงกว้าง พูดแบบง่ายๆคือทำให้ ทุกคนในสมาคมฟันดาบพูดภาษาเดียวกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และด้วยข้อมูลที่ใกล้เคียงกัน ลองคิดดูสิครับว่า ถ้าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง อีกคนพูดอย่างหนึ่ง แล้วคนที่รับข้อมูลเขาจะเชื่อใคร และพวกเราลองมองภาพดูต่อไปอีกสิครับว่า องค์กรของเรานี้มันจะน่าอยู่ขนาดไหน เพราะใครมีอะไรสามารถเอาออกมาเผยแพร่แลกเปลี่ยนความรู้กัน วิพากษ์กันได้ ยิ่งมีภูมิรู้กันมากๆ ผมว่ายิ่งยอมรับกัน ยกตัวอย่างมหาวิทยาลัย ฮาวาร์ด ทำไมจึงโด่งดังเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก ก็เพราะเขาทำแบบที่ผมว่านี่แหละครับ แต่ก่อนนั้นใครๆในวงการดาบว่ากันว่าหวงความรู้ ใครได้อะไรมาสักอย่างก็จะไม่เผยแพร่ เพราะเกรงว่าคนอื่นๆอาจจะก้าวแซงตัวเองไป ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัว อย่างเรื่องกติกาการแข่งขัน เมื่อก่อนนั้นเหมือนเป็นความลับดำมืด ใครได้มาครอบครองก็จะเก็บเอาไว้เป็นส่วนตัว บางทีอาจไม่เคยอ่านหรือศึกษาด้วยซ้ำ แต่ให้ใครรู้ไม่ได้ โดยคิดว่าถ้าปล่อยออกไปให้คนรู้โดยทั่วกัน คนที่มีกติกาอยู่กับมือก็จะหมดความสำคัญไป วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ที่พวกเราพยายามดึงผู้รู้ ชวนเชิญปรมาจารย์ทางดาบมาเผยแพร่ความรู้บน Website เพราะเชื่อว่าเราจะได้มีความรู้ร่วมกัน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ความเก่งของคนอยู่ที่การทำให้คนอื่นยอมรับ ไม่ใช่จากการที่บังคับให้คนยอมรับว่าตนเองเก่ง     โดยสรุปเมื่อคนในองค์กรมีคุณภาพ ตัวองค์กรก็จะมีคุณภาพตามไปด้วย ยกตัวอย่างทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ทผู้เล่นแต่ละคนนั้นล้วนแล้วแต่ฝีเท้าระดับพระกาฬ คุณภาพของนักเตะส่งผลให้ทีมแมนยูแมนเชสเตอร์ยูไนเตทโด่งดังไปทั่วโลก

 

สร้างนวัตกรรมใหม่ ผมอ้างถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ท  ทำไมถึงดังอยู่ได้จากอดีตถึงปัจจุบัน และก็ต้องรักษาความดังนี้ให้ได้ต่อไป เพราะในโลกแห่งการแข่งขันนั้น คู่แข่งล้วนมีศักยภาพ ถ้าเราไม่มีการพัฒนา คนอื่นๆก็จะเข้ามาแทนที่เรา และแซงเราไปในที่สุด เรื่องการสร้างนวัตกรรม แนวคิด สิ่งใหม่ๆจึงต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นกระบวนการ เราคงต้องหาผู้เชี่ยวชาญในแต่ละส่วน เช่นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการฝึกสอน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตัดสิน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการจัดการแข่งขัน หรืออื่นๆ เข้ามาช่วยบริหารจัดการ จะใช้วิธีรวมศูนย์อย่างแต่ก่อนคงจะยาก ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ต้องทำหน้าที่ทั้งในส่วนของตนและการเกาะติดกระแสโลกให้รู้ทิศทางของการเปลี่ยนแปลง สร้างรูปแบบวิธีคิดใหม่ๆ ให้กับองค์กร วันนี้พวกเราก็กำลังทำเช่นนั้นกันอยู่ ที่เห็นได้ชัดคือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหาร การจัดให้มีการสัมนา เพื่อระดมความคิด สมาคมฟันดาบฯ ณ วันนี้ มีทั้งข้อมูล องค์ความรู้ การสร้างนวัตกรรมจึงไม่ใช่เรื่องที่ยาก ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะได้เห็นระเบียบคำสั่งของสมาคมฟันดาบฯแบบ Online ที่มี Link ไปยังเรื่องต่างๆตามที่อ้างถึง สามารถรู้ว่ามีการแก้ข้อความในระเบียบเมื่อไร  ณ วันนี้เราสามารถดูวีดีโอที่มีกระจายอยู่ในที่ต่างๆบนโลก Internet พวกเราหลายๆคนต่างเข้าไปช่วยกันหา URL ที่เป็นตำแหน่งของวีดีโอฟันดาบมาให้ผมทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งค้นหา นี่ถือเป็นแนวคิดทางนวัตกรรมได้เลยครับ สิ่งสำคัญในการสร้างนวัตกรรมคือพันธมิตร (Net Work) คงเหมือนสองข้อแรกเราต้องรักษาสมดุลย์ให้เท่าๆกับสองข้อแรก

 

การประเมิน เนื่องจากสมาคมฟันดาบเป็นองค์กรที่มิได้มุ่งสู่ผลกำไร แต่เรามุ่งสู่ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล การประเมินจึงเป็นหัวใจสำคัญ นายกสมาคมฟันดาบท่าน พล.ร.อ.สมเดช  ทองเปี่ยม     ให้นโยบายการบริหารของสมาคมฟันดาบฯยุคใหม่ ไว้ชัดเจนว่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ การประเมินนั้นกระทำได้หลายวิธี ซึ่งผมจะไม่กล่าวถึง แต่ยืนยันว่าต้องมีการประเมิน สิ่งสำคัญที่สุดคือวัฒนธรรมประเพณีองค์กรแบบไทยๆ ที่มีทั้งระบบอุปถัมน์ ระบบคุณขอมา ระบบผลประโยชน์ต่างตอบแทน ระบบ Lobby เพื่อให้ได้มา ระบบเกรงใจ ระบบเช้าชามเย็นชาม ระบบช่างมันเถอะ  เหล่านี้คือตัวกัดกร่อน ทำให้การประเมินกระทำได้ยาก  และไม่สร้างสรรค์พัฒนา การประเมินคือกระจกสะท้อนให้เห็นการทำงานของทุกภาคส่วน ส่วนใดที่ไม่ยอมให้ประเมินแสดงว่าส่วนนั้นมีปัญหา"

 

ทั้งสี่เรื่องที่กล่าวมานี้คือหัวใจของความสำเร็จ  Website เป็นเหมือนลูกกุญแจดอกสำคัญ ที่ใช้ไขไปสู่ เส้นทาง ของแบบ Model BS พวกเราทุ่มเทกันหาข้อมูล จากเช้าจรดเย็น จากค่ำจนเกือบใกล้สว่าง ข้อมูลที่แต่ละคนมีนัั้นล้วนเป็นประโยชน์มหาศาล เมื่อครั้งที่ผมนั่งแปลเรียบเรียงกติกานั้น การแปลนั้นแปลยากมากเพราะต้องคงเนื้อความ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้อ่านเข้าใจ ขยายความก็ไม่ได้เพราะอาจทำให้เนื้อหาผิดเพี้ยนไป ใช้เวลาแปลอยู่เกือบหนึ่งปี เมื่อเริ่มหาข้อมูลเพื่อเขียนคู่มือการฝึก แค่ถ่ายรูปก็วุ่นวายกันพอสมควร ทำเสร็จแล้วได้เผยแพร่นั่นคือความสำเร็จ ผมเชื่อว่าพวกเราเดินมาถูกทาง และเดินมาไกลแล้ว สิ่งที่ทำไม่มีใครบังคับ ทำด้วยความรัก ด้วยต้องการสร้าง เสริมองค์ความรู้ให้พวกเราพวกเราชาวดาบ