งานผู้ฝึกสอน > ไอน์สไตน์ ทฤษฎีสัมพัทธ์กับฟันดาบ
ไอน์สไตน์ ทฤษฎีสัมพัทธ์กับฟันดาบ


นานมาแล้วเมื่อครั้งที่ผมยังมีสถานะเป็นนักดาบ ในสมัยนั้นวงการดาบยังไม่ก้าวหน้าเหมือนปัจจุบัน คนเล่นก็ไม่มากนัก แต่การฝึกซ้อมหนักมาก อาจเป็นเพราะความรักดาบ และบรรยากาศในการซ้อมที่ดี ทำให้ผมไม่เคยเบื่อและก็ได้แต่เฝ้ารอเวลาที่จะให้ถึงห้วงการซ้อม ผมไม่รู้ว่าการเล่นผมอยู่ระดับไหน แต่ทุกแชมป์การแข่งขันเท่าที่มีอยู่ในประเทศขณะนั้นผมได้แชมป์มาทั้งหมด เมื่อผมได้เข้ามาเป็นทีมชาติไทย ได้ฝึกซ้อมกับพี่ๆที่เป็นยอดฝีมือ ที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน พวกเราหลายคนคงไม่ทราบว่าแม้แต่หนังสือ Escrime ฉบับเดือน กันยายน-ตุลาคม ปี 1976 ก็ได้ลงชมเชยทีมไทยชุดโอลิมปิคที่ มอนทรีล แคนาดา ว่าเป็นทีมที่สร้างความประหลาดใจให้กับวงการฟันดาบโลก เนื่องจากทีมไทยถือเป็นทีม No Name แต่สามารถต่อกรกับทีมมหาอำนาจอย่างรัสเซียได้อย่างสูสี คู่คี่ชนิดผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะคู่ต่อคู่  จนโคชรัสเซียต้องรีบมาแก้เกมส์และเอาชนะไปได้ 11 ต่อ 5 (ทีมเอเป้ชุดนั้นประกอบด้วย พี่จั๊ม,พี่เสน่ห์,พี่พงษ์ และพี่โต่ง)จะเห็นได้ว่าการฝึกซ้อมสมัยนั้นต้องเข้มข้นมาก ประเด็นของเรื่องนี้ก็คือ เมื่อเล่นและลงแข่งมาจนถึงระดับหนึ่ง มันเกิดภาวะของการยกระดับ ที่ทำให้เราเกิดความเร็วที่เหนือกว่าคู่ต่อสู้ และทำให้มองเห็นใบดาบของคู่ต่อสู้ที่เดินทางเข้ามาหาเราช้าลง จนทำให้เรามีเวลาคิดตอบโต้ หมายถึงว่าช่วงนั้นเรามีความแกร่งถึงขีดสุด และการซ้อมถึงความพร้อม ทำให้ผมนึกถึงทฤษฎีสัมพัทธ์เรื่องเวลาของไอน์สไตน์ ว่าเรื่องของมิติเวลาที่เราคิดว่าเท่ากันนั้น ความจริงแล้วมันไม่เท่ากัน หลายคนคงได้ยินว่า ในช่วงเวลาที่ใกล้ความเป็นความตาย เมื่อจิตใจของคนเราต้องจดจ่ออยู่กับเรื่องทีประสบอยู่ จนถึงจุดที่เป็นสมาธิ เราจะรู้สึกว่าเวลาในห้วงสองหรือสามวินาทีนั้น มันช้าลง เพียงพอให้เราแก้สถานการณ์ได้ ผมได้ประสบเรื่องนี้ด้วยตัวเองเมื่อครั้งที่มีรถคันหนึ่งวิ่งฝ่าไฟแดงด้วยความเร็วสูงกลางสี่แยกเข้ามาหารถผม ที่วิ่งผ่านไฟเขียว วินาทีนั้นผมคิดว่าจะต้องประสานงากันอย่างแน่นอน แต่ในห้วงของเวลาที่เฉียดฉิวนั้น ผมรู้สึกว่าเวลามันเดินช้าเพียงพอให้มีเวลาคิดที่จะหักหลบ และยังมีเวลามองเห็นเสาสัญญานไฟที่ขวางอยู่ข่างหน้า และหักหลบกลับจนรถผมตะแคงวิ่งสองล้อ แต่การหักหลบแต่ละครั้งนั้นไม่ได้กระทำอย่างตกใจ เมื่อล้อทางซีกซ้ายสัมผัสพื้น จึงรู้สึกว่าเวลามันกลับมาเป็นปกติ ครั้งนั้นรอดจากการชนมาได้ต้องบอกว่าเส้นยาแดงผ่าแปด ผมได้ผ่านห้วงเวลาในการเป็นนักดาบที่ดีที่สุดมาแล้ว และเชื่อว่านักดาบระดับโลกก็คงได้ค้นพบกับสิ่งมหัศจรรย์ในเรื่องเวลาเช่นผม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เวลาบางห้วงของนักดาบระดับโลกนั้นไม่เท่ากับเราในระหว่างแข่งขัน ขอให้ท่านไปค้นหาให้พบนะครับ สำหรับรูปข้างล่างนี้เป็นภาพที่ผมสแกนเพื่อนำเรื่องที่หนังสือ Escrime เขียนชมนักดาบไทย หนังสือ Escrime เมื่อก่อนหน้าปกเหมือนกันทุกเล่มครับ