งานผู้ฝึกสอน > ไปฝึกครูดาบที่โตเกียว ตอนที่ 5 สัปดาห์ที่ 3 สรุปการฝึก
ไปฝึกครูดาบที่โตเกียว ตอนที่ 5 สัปดาห์ที่ 3 สรุปการฝึก

SABRE TRAINING COURSE AT TOKYO

 

สรุปการฝึก

 

การฝึก

 

แบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงเช้า 9.30 น. ? 12.30 น. และช่วงบ่าย 15.30 น. ?17.30 น. รวม 5 ชั่วโมงต่อวัน เรียน 6 วันต่อสัปดาห์ วันจันทร์ ถึงวันเสาร์  วันอาทิตย์พาไปเที่ยว

 

ในช่วงเช้าโค้ชจะนำ Warm up , Stretching, เล่นเกมส์,นำ warm up step และ take lesson หลังจากสอนแล้วก็จะให้นักเรียนออกมาทีละคู่และผลัดกันสอนท่าที่โค้ชสอนในตอนแรก โดยจะทำประมาณ 2-3 คู่ โดยโค้ชจะคอยแก้ไขท่าที่ทำผิดและสอนเพิ่มเติมตลอด จนถึงพักเที่ยงช่วงบ่าย โค้ชจะเลือกนักเรียน 3 คนที่จะนำ warm up ,stretching, และนำเดิน step ประมาณคนละ 20 นาที จากนั้นโค้ชจะสอน lesson เพิ่มและให้เข้าคู่ผลัดกันสอนทีละคู่เหมือนช่วงเช้า และจะเรียกนักเรียนบางคนมาล่อเป้ากับโค้ช 4 คนต่อวันสลับกันจนครบทุกคน

 

รูปแบบการสอน

 

จะเน้นให้คนที่มาได้ปฏิบัติและเอาไปใช้ได้จริงหลังจากจบคอร์สนี้สามารถสอนนักกีฬาตั้งแต่ระดับเยาวชนจึงถึงขั้น high performance ได้แนวคิดสำคัญมากในการสอนคอร์สนี้ก็คือ การสอนการเป็นโค้ชที่ดี ต้องเป็นโค้ชที่สอนให้นักกีฬาเข้าใจง่าย และรู้ถึงปัญหาของนักกีฬา สามารถแก้ปัญหาของนักกีฬาและเพิ่มศักยภาพความสามารถของนักกีฬาได้อย่างเป็นระบบและถูกต้อง

 

การสอนทั่วไปเป็นการสอนแบบ Classic style ซึ่งผู้ที่เรียนสามารถเอาไปดัดแปลงเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับการสอนในแบบของตัวเองได้  ผลที่ได้รับ

 

          1. สามารถปฏิบัติและเอาไปใช้ได้จริง เข้าใจการให้จังหวะที่ให้กับนักกีฬามากขึ้น

          2. สามารถแก้ปัญหาของนักกีฬาในหลายรูปแบบได้

          3. รู้ถึงวิธีการเพิ่มศักยภาพของนักกีฬามากขึ้น technique และ tactic ของดาบเซเบอร์ที่ใช้ในปัจจุบัน

 

บรรยากาศในการฝึก

 

บรรยากาศในการเรียนค่อนข้างเป็นกันเอง เพราะโค้ชจะให้เล่นเกมส์แข่งกันเป็นทีมและเข้าคู่ล่อเป้าด้วยกันตลอด และวันอาทิตย์ก็ไปเที่ยวด้วยกัน จึงค่อนข้างเข้ากันได้เร็วและสนิทสนมกัน อีกทั้งอายุโดยรวมจะไม่ต่างกันมาก ถึงแม้บางคนพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้อย่างเวียตนามหรืออิหร่าน แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะใช้ nonverbal เป็นส่วนใหญ่ ปุ๋มเป็นผู้หญิงคนเดียวแต่ก็สามารถเข้ากลุ่มได้เพราะทำทุกอย่างได้เหมือนกับทุกคน แต่โค้ชจาก Palestine ที่ไม่ค่อยได้เข้าคู่เพราะอายุมากประมาณ 50 กว่า ส่วนโค้ชจาก Qata บาดเจ็บถึงกับเข้าโรงพยาบาลกล้ามเนื้อฉีกรุนแรงต้องพัก 2 -3 อาทิตย์ถึงจะหาย  

 

ปัญหา

 

1. ภาษา เนื่องจากโค้ชมาจากประเทศโปแลนด์ พูดได้ 2 ภาษาคือ Russia และ French ต้องมีล่ามแปลซึ่งไม่รู้เรื่องฟันดาบ จึงฟังไม่เข้าใจและหลายครั้งแปลช้า แต่ช่วงหลังโค้ชพยายามพูดภาษาอังกฤษมาก จึงค่อนข้างสื่อสารกันได้มากขึ้น

2. คนเรียนบาดเจ็บกันหลายคน เพราะหลายกิจกรรมต้องsprint , jump,และต้อง Lung หลายๆครั้งถึงแม้จะwarm up หรือ stretchingก่อนก็มีหลายคนบาดเจ็บ ในสัปดาห์แรกๆค่อนข้างเหนื่อยมากแต่สัปดาห์ต่อมาก็ปรับตัวกันได้มากขึ้น

3. การบันทึก VDO เนื่องจากทางเจ้าภาพไม่มีการบันทึก VDO อย่างเป็นระบบตั้งแต่แรก มีช่วงหลังที่ตั้งกล้องไว้ 1 ตัวแต่คงจะเก็บไว้เองเพราะเป็นกล้องของโค้ชญี่ปุ่นที่ร่วมเรียนด้วย ทำให้คนที่เรียนต้องหาทางบันทึกVDO เองตอนที่โค้ชสอน ค่อนข้างตะกุกตะกักและเสียสมาธิในการดูตัวอย่างจากโค้ช

 

ส่วนเรื่องสถานที่เรียน ห้องพักและอาหารการเดินทาง สะดวกสบาย คนที่เรียนสามารถใช้ห้องเซาน่า,ห้อง weight ,และสนามวิ่งได้ มีInternetฟรีให้ใช้ตลอด แต่อาหารและของใช้ค่อนข้างแพงกว่าเราประมาณ 3-4 เท่า

 

สรุป


Course นี้ถือเป็นคอร์สที่ดีมากเพราะเน้นการสร้างผู้ฝึกสอนที่สามารถปฏิบัติและสามารถสร้างนักกีฬาที่มีพื้นฐานที่ถูกต้องตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงระดับ high performance ได้จริง และผู้ฝึกสอนสามารถนำกลับไปดัดแปลงหรือเพิ่มเติมรูปแบบการสอนให้เป็นแบบของตัวเองได้ ถ้าเราสามารถรับเป็น host ในการอบรมดาบเอเป้และฟอล์ยจะเป็นโอกาสที่ดีอย่างมากและเป็นข้อได้เปรียบเพราะเราสามารถส่งคนเข้าร่วมอบรมมากกว่า  1 คนได้ อย่างญี่ปุ่นส่ง 2 คน คนแรกเป็นโค้ชทีมชาติค่อนข้างมีอายุ แต่สอนเก่งประสบการณ์สูงนักกีฬาไปโอลิมปิกมาแล้ว อีกหนึ่งคนค่อนข้างหนุ่มเป็นครูสอนพละที่มีทักษะฟันดาบดีมาก เข้าเรียนและตอนเย็นก็ได้ให้เข้ามาสอนนักกีฬาเยาวชน ทบทวนบทเรียนที่ได้อบรมมาทุกวัน ซึ่งค่อนข้างทำได้ดีด้วย ซึ่งการเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันและงานใหญ่ๆต่างๆประเทศไทยเราสามารถทำได้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าสมาคมฟันดาบฯเรามีโอกาสรับเป็นเจ้าภาพน่าจะเป็นผลดีมากกว่าเสียค่ะ