

SABRE TRAINING COURSE AT TOKYO
สรุปการฝึก
การฝึก
แบ่งเป็น 2 ช่วง
คือช่วงเช้า 9.30 น. ? 12.30 น. และช่วงบ่าย 15.30 น. ?17.30 น. รวม 5 ชั่วโมงต่อวัน
เรียน 6 วันต่อสัปดาห์ วันจันทร์ ถึงวันเสาร์
วันอาทิตย์พาไปเที่ยว
ในช่วงเช้าโค้ชจะนำ Warm
up , Stretching, เล่นเกมส์,นำ warm
up step และ take lesson หลังจากสอนแล้วก็จะให้นักเรียนออกมาทีละคู่และผลัดกันสอนท่าที่โค้ชสอนในตอนแรก
โดยจะทำประมาณ 2-3 คู่ โดยโค้ชจะคอยแก้ไขท่าที่ทำผิดและสอนเพิ่มเติมตลอด
จนถึงพักเที่ยงช่วงบ่าย โค้ชจะเลือกนักเรียน 3 คนที่จะนำ warm
up ,stretching, และนำเดิน step ประมาณคนละ 20 นาที จากนั้นโค้ชจะสอน lesson เพิ่มและให้เข้าคู่ผลัดกันสอนทีละคู่เหมือนช่วงเช้า
และจะเรียกนักเรียนบางคนมาล่อเป้ากับโค้ช 4 คนต่อวันสลับกันจนครบทุกคน
รูปแบบการสอน
จะเน้นให้คนที่มาได้ปฏิบัติและเอาไปใช้ได้จริงหลังจากจบคอร์สนี้สามารถสอนนักกีฬาตั้งแต่ระดับเยาวชนจึงถึงขั้น high
performance ได้แนวคิดสำคัญมากในการสอนคอร์สนี้ก็คือ
การสอนการเป็นโค้ชที่ดี ต้องเป็นโค้ชที่สอนให้นักกีฬาเข้าใจง่าย
และรู้ถึงปัญหาของนักกีฬา
สามารถแก้ปัญหาของนักกีฬาและเพิ่มศักยภาพความสามารถของนักกีฬาได้อย่างเป็นระบบและถูกต้อง
การสอนทั่วไปเป็นการสอนแบบ Classic
style ซึ่งผู้ที่เรียนสามารถเอาไปดัดแปลงเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับการสอนในแบบของตัวเองได้ ผลที่ได้รับ
1.
สามารถปฏิบัติและเอาไปใช้ได้จริง เข้าใจการให้จังหวะที่ให้กับนักกีฬามากขึ้น
2.
สามารถแก้ปัญหาของนักกีฬาในหลายรูปแบบได้
3.
รู้ถึงวิธีการเพิ่มศักยภาพของนักกีฬามากขึ้น technique และ tactic ของดาบเซเบอร์ที่ใช้ในปัจจุบัน
บรรยากาศในการฝึก
บรรยากาศในการเรียนค่อนข้างเป็นกันเอง
เพราะโค้ชจะให้เล่นเกมส์แข่งกันเป็นทีมและเข้าคู่ล่อเป้าด้วยกันตลอด
และวันอาทิตย์ก็ไปเที่ยวด้วยกัน จึงค่อนข้างเข้ากันได้เร็วและสนิทสนมกัน
อีกทั้งอายุโดยรวมจะไม่ต่างกันมาก
ถึงแม้บางคนพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้อย่างเวียตนามหรืออิหร่าน
แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะใช้ nonverbal เป็นส่วนใหญ่ ปุ๋มเป็นผู้หญิงคนเดียวแต่ก็สามารถเข้ากลุ่มได้เพราะทำทุกอย่างได้เหมือนกับทุกคน
แต่โค้ชจาก Palestine ที่ไม่ค่อยได้เข้าคู่เพราะอายุมากประมาณ 50 กว่า ส่วนโค้ชจาก Qata บาดเจ็บถึงกับเข้าโรงพยาบาลกล้ามเนื้อฉีกรุนแรงต้องพัก 2
-3 อาทิตย์ถึงจะหาย
ปัญหา
1. ภาษา เนื่องจากโค้ชมาจากประเทศโปแลนด์
พูดได้ 2 ภาษาคือ Russia และ French ต้องมีล่ามแปลซึ่งไม่รู้เรื่องฟันดาบ จึงฟังไม่เข้าใจและหลายครั้งแปลช้า
แต่ช่วงหลังโค้ชพยายามพูดภาษาอังกฤษมาก จึงค่อนข้างสื่อสารกันได้มากขึ้น
2. คนเรียนบาดเจ็บกันหลายคน
เพราะหลายกิจกรรมต้องsprint , jump,และต้อง Lung หลายๆครั้งถึงแม้จะwarm up หรือ stretchingก่อนก็มีหลายคนบาดเจ็บ
ในสัปดาห์แรกๆค่อนข้างเหนื่อยมากแต่สัปดาห์ต่อมาก็ปรับตัวกันได้มากขึ้น
3. การบันทึก VDO เนื่องจากทางเจ้าภาพไม่มีการบันทึก VDO อย่างเป็นระบบตั้งแต่แรก
มีช่วงหลังที่ตั้งกล้องไว้ 1 ตัวแต่คงจะเก็บไว้เองเพราะเป็นกล้องของโค้ชญี่ปุ่นที่ร่วมเรียนด้วย
ทำให้คนที่เรียนต้องหาทางบันทึกVDO เองตอนที่โค้ชสอน
ค่อนข้างตะกุกตะกักและเสียสมาธิในการดูตัวอย่างจากโค้ช
ส่วนเรื่องสถานที่เรียน ห้องพักและอาหารการเดินทาง
สะดวกสบาย คนที่เรียนสามารถใช้ห้องเซาน่า,ห้อง weight ,และสนามวิ่งได้ มีInternetฟรีให้ใช้ตลอด
แต่อาหารและของใช้ค่อนข้างแพงกว่าเราประมาณ 3-4 เท่า
สรุป
Course นี้ถือเป็นคอร์สที่ดีมากเพราะเน้นการสร้างผู้ฝึกสอนที่สามารถปฏิบัติและสามารถสร้างนักกีฬาที่มีพื้นฐานที่ถูกต้องตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงระดับ high
performance ได้จริง
และผู้ฝึกสอนสามารถนำกลับไปดัดแปลงหรือเพิ่มเติมรูปแบบการสอนให้เป็นแบบของตัวเองได้
ถ้าเราสามารถรับเป็น host ในการอบรมดาบเอเป้และฟอล์ยจะเป็นโอกาสที่ดีอย่างมากและเป็นข้อได้เปรียบเพราะเราสามารถส่งคนเข้าร่วมอบรมมากกว่า 1 คนได้ อย่างญี่ปุ่นส่ง 2 คน
คนแรกเป็นโค้ชทีมชาติค่อนข้างมีอายุ
แต่สอนเก่งประสบการณ์สูงนักกีฬาไปโอลิมปิกมาแล้ว
อีกหนึ่งคนค่อนข้างหนุ่มเป็นครูสอนพละที่มีทักษะฟันดาบดีมาก
เข้าเรียนและตอนเย็นก็ได้ให้เข้ามาสอนนักกีฬาเยาวชน ทบทวนบทเรียนที่ได้อบรมมาทุกวัน
ซึ่งค่อนข้างทำได้ดีด้วย
ซึ่งการเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันและงานใหญ่ๆต่างๆประเทศไทยเราสามารถทำได้ดีอยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าสมาคมฟันดาบฯเรามีโอกาสรับเป็นเจ้าภาพน่าจะเป็นผลดีมากกว่าเสียค่ะ