

วีดิโอประกอบการวิเคราะห์ ของ CyrusofChaos
https://www.youtube.com/watch?v=MjBXN5znLQU
เป็นการวิเคราะห์การเข้าทำแบบ Slow
attacks ของ นักดาบเซเบอร์
Tamas Decsi ชาวฮังการี และ Julien Pillet ชาวฝรั่งเศส นักดาบเซเบอร์ส่วนใหญ่เข้าโจมตีเหยื่อโดยไม่ค่อยเต้นฟุตเวอร์ (ซึ่งผิดกับนักดาบเอเป้และฟอลย์) โดยทั่วไปแล้วจะก้าวเท้าเข้าทำอย่างรวดเร็วแล้วจบลงด้วยการออกดาบ
การเข้าทำลักษณะนี้เกือบจะไม่ถูกเป้า แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเนื่องจากผู้ถูกไล่ก็มักจะถอยหลังอย่างไม่เป็นกระบวน
เพราะการรุกไล่แบบนี้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องถอยยาวมากจนบางครั้งอาจจะต้องถอยแบบสลับเท้าเพื่อให้พ้นระยะดาบ
แต่การถอยแบบนี้ก็ไม่อาจรุกกลับได้อย่างทันท่วงที
(นี่คือข้อเสียของการถอยแบบสลับเท้า) การรุกไล่แบบของ Pillet
และ Decsi ทำให้คู่ต่อสู้แทบไม่มีโอกาสตอบกลับได้เลย
อย่างไรก็ตามการรุกไล่ในแบบของ Pillet จะใช้ได้ผลไม่ดีนักกับนักดาบที่ถอยแล้วทรงตัวได้ดีมาก
ด้วยเหตุผลที่ว่าฝ่ายถอยมักจะดึงระยะจนทำให้ฝ่ายเข้าทำลงดาบพลาดเป้าจากนั้นก็จะถูกฟันกลับอันเป็นการสำเร็จโทษซะเลย
ซึ่งจากวีดิโอก็จะเห็นตัวอย่างชัดเลยที่ Decsi รุกไล่
Smart นักดาบชาวสหรัฐฯ เกือบตกสนาม แต่ Decsi ลงดาบพลาดเป้า ในขนะที่ Smart ถอยแบบสลับเท้าอย่างเร็วจนสามารถดึงระยะได้สำเร็จ
สิ่งที่ Smart ทำได้ดีคือการทรงตัวหลังจากการสลับเท้า
เมื่อสิทธิตกเป็นของ Smart แล้ว Smart จึงโดดตีกลับหรือ Flung จนได้แต้ม
ดังนั้นจึงขอย้ำว่าการรุกไล่แบบของ Decsi และแบบของ Pillet จะต้องระมัดระวังในการใช้กับนักดาบที่มีการทรงตัวดี
เช่นเดียวกัน ในตัวอย่างวีดิโอก็จะเห็น Zhong ใช้เทคนิคการดึงระยะเมื่อเล่นกับ
Pillet ในลักษณะเดียวกัน ในทำนองเดียวกันการรุกไล่ของ
Pillet ก็ใช้ไม่ได้ผลกับ Motano ดังนั้นการรุกไล่แบบ Slow attack ในแบบของ Pillet จึงต้องเพิ่มอีกหนึ่งขั้นตอนเป็น Extented Slow attack โดยแทนที่จะตัดสินใจลงดาบในจังหวะสุดท้ายกลับเก้าเท้าต่อไปอีกหนึ่งหรือสองเก้าก่อนที่จะลงดาบ
ให้ดูตัวอย่างเมื่อ Pillet เล่นกับ Zhong เพราะแม้ว่า Pillet จะลงพลาดเป้าไปแล้วแต่ Pillet กลับรุกไล่ทำต่อไปจนสามารถทำแต้มได้จนเกือบสุดสนาม
(อันนี้ดูยากจะต้องดูจากการถ่าย Slow motion) ข้อสังเกตุอีกอันหนึ่งก็คือ การรุกไล่ในแบบของ Pillet จะใช้ได้ผลดีมากกับนักดาบที่ชอบถอยสลับเท้า
ซึ่งในตัวอย่างวีดีโอจะเห็นว่า Zhong โดนรุกไล่จาก Pillet แต่ Zhong พลาดจากการถอยด้วยการสลับเท้า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเขาไม่ค่อยทำ จึงถูก Pillet ลงดาบได้ถูกเป้าในขณะที่เขาไม่สามารถตอบโต้ได้ทัน นอกจากนี้แล้ว Pillet เมื่อรุกไล่แล้วแม้ว่าเขาจะลงดาบพลาดเป้าไปแล้วเขาก็ยังเข้าทำซ้ำ (Remise)
ต่อเนื่องไปจนสามารถลงดาบได้ตัวอย่างนี้เห็นได้จากการเล่นระหว่าง Pillet กับ Williams
การรุกไล่แบบของ Pillet มีข้อเสียคือ
ถ้าฝ่ายถอยเกิดใช้ยุทธวิธีโต้การรุก หรือกล่าวอย่างไทยๆ
ก็คือการชิงจังหวะเข้าทำในขณะที่ฝ่ายรุกกำลังรุกไล่หรือกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการเข้าทำ
ดังนั้นคุณจะใช้การรุกไล่ในแบบของ Pillet หรือ Decsi
ได้ก็ต่อเมื่อคุณมั่นใจว่าคู่แข่งของคุณเขาจะไม่โต้การรุกด้วยการชิงจังหวะเข้าทำระหว่างที่คุณรุกไล่ ดูตัวอย่างเมื่อ Pillet เล่นกับ Dumitrescu นักดาบชาวรูมาเนีย ซึ่ง Dumitrescu ตั้งคอยรับอย่างเดียวในขณะที่
Pillet รุกไล่จึงทำให้การรุกไล่ของเขาได้ผลดีมาก
เทคนิคหนึ่งที่ Pillet ใช้ในการหรอกฝ่ายตรงข้ามเสมอในระหว่างการเก้าเท้าเข้าทำของเขาก็คือ
การแสร้งทำให้เหมือนว่าจะลงดาบด้วยการลันจ์แต่แท้จริงแล้วเป็นการก้าวเท้ารุกไปข้างหน้า
นี่เองคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ฝ่ายรับมักลืมที่จะชิงจังหวะเข้าทำ
เพราะมันดูเหมือนว่า Pillet จะลันจ์
เพราะหากโต้การเข้าทำในขณะที่ Pillet จะลันจ์ละก็มีหวังเสียคะแนนแน่
ดังนั้นหากใครจะฝึกการรุกไล่แบบนี้ก็จะต้องทำให้การก้าวเท้าเข้าทำให้เหมือนกับว่าจะลงดาบทุกขณะที่ก้าวเท้ารุกไล่คู่แข่ง
ข้อสังเกตุอีกอย่างหนึ่งก็คือ หาก Pillet
เล่นกับ Montano ซึ่ง Montano มักชอบเล่นในระยะใกล้จนทำให้การรุกไล่ของ Pillet ทำความเร็วไม่ได้
Pillet จึงแก้ด้วยการปัดดาบระหว่างรุกไล่ทำให้สามารถไล่
Montano ให้ห่างออกไปได้ ในตอนท้ายของวิดิโอเป็นตัวอย่างการแก้ทางกับการเข้าทำของ
Pillet โดย Dumitrescu อาศัยการดึงระยะและการทรงตัวที่ดีในการตอบโต้การรุกของ
Pillet