งานผู้ฝึกสอน > พลังอำนาจของโค้ช Christian Bauer กับชัยชนะของ นักดาบเซเบอร์ Zhong ในโอลิมปิค 2008
พลังอำนาจของโค้ช Christian Bauer กับชัยชนะของ นักดาบเซเบอร์ Zhong ในโอลิมปิค 2008

ที่มาของภาพจากเว็ปไซต์ http://voices.washingtonpost.com/dcsportsbog/fencingbitemedal.jpg
บทความนี้เป็นบทความหนึ่งที่มีผู้สนใจเข้ามาอ่านกันมาก ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ผมจึงนำมาลงที่หน้าเว็ปอีกครั้งเพื่อให้ผู้สนใจได้มีโอกาสอ่านอีกครั้งครับ


          เบื้องหลังชัยชนะของนักดาบเซเบอร์ Zhong อายุ 25 ปี สูง 6-foot-3 นิ้วของจีนในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคคว้าเหรียญทองให้กับจีน และทำให้ Nicolas Lopez สูง 5-foot-11 นิ้ว อายุ 27 ปี ของฝรั่งเศส ได้เหรียญเงินไป ชัยชนะครั้งนั้นเกิดจากการฝึกฝนอย่างหนักของโค้ชฝรั่งเศสชื่อดัง Christian Bauer  นับเป็นนักกีฬาดาบเซเบอร์ของจีนคนแรกที่ได้เหรียญทองในโอลิมปิคเขาทำแต้มมาที่ 9-9 แต่ในที่สุดก็ชนะไปเป็น 15-9 อย่างขาดลอย นอกจากนี้เขายังชนะ  Julien Pillet ด้วยคะแนน 15-12 ในรอบ Semi-Final

 

          เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โค้ชคนเดียวกันนี้ก็เคยทำให้นักดาบอิตาลี Aldo Montano นักดาบเซเบอร์ของอิตาลีคว้าเหรียญทองมาแล้วในโอลิมปิค 2004 ที่เอเธนส์ นี่ไงที่แสดงให้เห็นว่าโค้ชมีความสำคัญยิ่งต่อนักกีฬาเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในโอลิมปิค หากนักกีฬาระดับนี้ขาดโค้ชที่มีประสบการณ์ ก็ยากที่นักกีฬาผู้นั้นจะประสบความสำเร็จระดับโอลิมปิค  (Zhong  ทำให้ วีระเดช โคทนี่ของเราตกรอบ 32 ในโอลิมปิคปีเดียวกัน)  Christian Bauer  ปัจจุบันเขาเป็นหัวหน้าโค้ชดาบเซเบอร์ของจีน เขามีสัญญากับจีนเป็นระยะเวลา ปี ผลงานของเขาที่ผ่านมาคือ เขาเคยทำให้นักดาบเซเบอร์ทีมดาบชาติอิตาลีคว้าแชมป์ในรายการระดับโลกหลายสมัยติดต่อกัน และทำให้นักดาบเซเบอร์บุคคล เช่น Montano คว้าเหรียญทองในโอลิมปิค 2004 ก่อนหน้านี้

        Christian Bauer  ยังกล่าวว่า อุปสรรคที่สำคัญของจีนก็คือ นักกีฬาจีนไม่สามารถฟังภาษาอังกฤษได้เลยจึงจำเป็นต้องมีล่ามคอยแปลในขณะฝึกซ้อม แต่นักกีฬาจีนก็มีจุดแข็งในหลายด้าน เช่น นักกีฬาของจีนสามารถทุ่มเทกับการฝึกโดยไม่ต้องพะวงกับการเรียนหนังสือ เรียกว่าเล่นกีฬาอย่างเดียว นอกจากนั้น จีนยังทุ่มเทสร้างนักกีฬาให้เก่งได้ตั้งแต่ต้น แนวทางการพัฒนานักกีฬาของจีนเริ่มต้นด้วยการให้นักกีฬาเริ่มเล่นในกีฬาหลักๆ ก่อน เช่น เล่นฟุตบอล บาสเก็ตบอล จากนั้นโค้ชจะดูว่านักกีฬาคนไหนควรจะเล่นกีฬาอะไรต่อไปจึงจะเหมาะสม ซึ่งแตกต่างไปจากตะวันตกที่นักกีฬามักเลือกเล่นกีฬาตามความพอใจของตน โดยโค้ชจีนได้เลือกให้ Zhong หันมาเล่นดาบเมื่อเขาอายุได้ 15 ปี (ซึ่งแตกต่างไปจากนักดาบของยุโรปที่เริ่มเล่นดาบตั้งแต่อายุ 6-7 ขวบ) โดย Zhong เปลี่ยนจากการเล่นบาสเก็ตบอลมาเล่นดาบแทน  ด้วยวิธีการนี้ของจีนทำให้สามารถเลือกนักดาบที่มีรูปร่างทางกายภาพเหมาะสมกับการเล่นดาบได้ง่ายกว่าเพราะในห้วงอายุขนาดนี้ร่างการของนักกีฬาเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว  ส่วนในแง่ของเทคนิคดาบแล้ว ถือได้ว่าจีนมีเทคนิคในการฝึกดาบได้ดีในระดับต้นๆ ของโลกทีเดียว แต่จีนยังขาดความรู้ในเชิงยุทธวิธีดาบ (Tactic)  ค่อนข้างมากเนื่องจากนักดาบจีนขาดประสบการณ์ในการแข่งขันในต่างประเทศ โดยเฉพาะการเล่นกับนักดาบฝรั่งเศสที่มี Tactic แพรวพราวและมักเปลี่ยนจังหวะการเล่น (Tempo) อยู่บ่อยครั้ง เช่น นักดาบเซเบอร์ฝรั่งเศส มักเล่น เร็ว ช้า เร็ว ช้า ช้า และในบางครั้งนักดาบฝรั่งเศสเล่นเร็วมากทำให้เราไม่สามารถจับรูปแบบการเล่นของนักดาบฝรั่งเศสได้ง่ายนัก ดังนั้นนักดาบจีนจึงต้องเรียนรู้ในการเล่นอย่างช้าบ้างเพื่อดึงให้คู่แข่งกลับมาเล่นในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้กับเรา อย่างไรก็ตามนักดาบจีนจำเป็นต้องทำการฝึกตอบโต้กับนักดาบฝรั่งเศสด้วยยุทธวิธีนี้จากบทเรียนการฝึกเฉพาะทาง (Single Lesson) และบทเรียนการฝึกผสม (Collective Lesson) อย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักดาบเซเบอร์ของจีนคุ้นเคยกับยุทธวิธีดาบดังกล่าว นี่เองคือเคร็ดลับที่ทำให้ Zhong สามารถเอาชนะนักดาบฝรั่งเศสได้อย่างที่เห็น นอกจากนี้นักดาบจีนจะต้องหันมาฝึกดาบที่เน้นเชิงคุณภาพให้มากขึ้นแทนที่จะเน้นที่ปริมาณที่มีการฝึกหนักตลอดทั้งวัน แต่ควรเน้นการฝึกเทคนิคและยุทธวิธีดาบที่ถูกต้องให้มากขึ้น 

 

        เขายังให้ข้อคิดกับนักดาบเซเบอร์ที่ต้องการความเป็นเลิศในโอลิมปิคอีกว่า การฝึกด้านจิตใจในดาบเซเบอร์มีความสำคัญสูงมาก และมีผลต่อความสามารถในความเป็นเลิศถึงร้อยละ 99  เขากล่าวว่านักดาบเซเบอร์จะต้องมี 

 

(1) ความมั่นใจตัวเองว่าตนเองในสิ่งที่ได้ฝึกมา

 

(2) มองโลกในทางบวกไว้ก่อนคือเขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

 

(3) เขาจะต้องวางแผนล่วงหน้าว่าแต่ละลูกที่จะเอาชนะฝรั่งเศสนั้นจะต้องทำอย่างไร โดยธรรมชาติของดาบเซเบอร์ซึ่งเป็นเกมส์ที่รวดเร็วมาก จึงไม่อาจมีเวลาคิด เพราะถ้าคิดเมื่อไร จะไม่ได้แต้ม ซึ่งไม่เหมือนในดาบฟอลย์หรือเอเป้ที่มีเวลาในเกมส์ให้คิดได้นาน แต่ในดาบเซเบอร์มันเร็วมาก นักดาบเซเบอร์จึงต้องตัดสินใจก่อนล่วงหน้าเลยว่าในลูกต่อไปตนจะต้องทำอะไรและปฎิบัติการทันที หลังจากนั้นต้องประเมินผล หากจำเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาดก็จะต้องตัดสินใจนำไปแก้ในลูกต่อไปเลย เรียกว่าวงรอบในการตัดสินใจ (Decision Cycle) ในดาบเซเบอร์นั้นรวดเร็วมาก ซึ่งอันนี้นักดาบเซเบอร์จะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างกระบวนการคิดที่รวดเร็วให้ช่ำชองครับ   

 

ที่มา จาก The New York Tmes, Friday, Ausgust 21, 2009 ดูเมื่อ 21 ส.ค. 2009 

 

ผู้ที่สามารถฟังภาษาอังกฤษได้ดี ควรฟังสดจากการให้สัมภาษณ์ของ Christian Bauer  โดย (click) Fencing.net ดูเมื่อ 21 ส.ค. 2009