งานผู้ฝึกสอน > การสกัด กับการสวนดาบ
การสกัด กับการสวนดาบ

การสกัดกับการสวนดาบ

 

การสกัดกับการสวนดาบ ในดาบสิทธิเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนมากๆ และสร้างความสับสนให้กับผู้ตัดสินได้โดยง่าย แม้แต่ในกติกาของเซเบอร์ ม.80 ข้อ 5 เองก็ยังกล่าวถึงความยากเรื่องนี้ เอาไว้ว่า ความผิดของฝ่าย เข้าทำประกอบด้วยความลังเลใจ ความชักช้าในการแทงหรือการหลบหลีกที่ไม่ได้ผลส่วน ความผิดของฝ่ายตั้งรับนั้นอยู่ที่การถ่วงเวลาหรือชักช้าในการสกัด(กรณีหนึ่งที่ตัดสินยากก็คือการแทงสกัดแล้วเป็นการแทงพร้อมกัน ซึ่งยากที่จะพิจารณาได้ว่าเป็นการแทง/ฟันสกัด ในช่วงจังหวะเวลาเคลื่อนที่ในขั้นสุดท้ายของการเข้าทำหลายจังหวะหรือไม่และโดยทั่วไปแล้ว ในกรณีเช่นนี้จะต้องถือว่าการแทงพร้อมกันนั้นเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของนักดาบทั้งสองฝ่าย ซึ่งทำให้ผู้ตัดสินสั่งให้คู่แข่งขันกลับไปอยู่ในท่าจดดาบ )

ขณะเดียวกันในแง่มุมของผู้ฝึกสอนถ้าไม่เข้าใจในสองสิ่งนี้ ก็จะไม่สามารถหา Tempo ที่เหมาะสมเพื่อสอนให้กับนักดาบได้

ความจริงในเรื่องนี้ถ้าผู้ตัดสินเข้าใจหลักการแล้วง่ายนิดเดียว และเมื่อได้ฝึกฝนดูนอกสนามแข่งขันก็จะชำนาญ จะเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินได้เป็นอย่างมาก ในการตัดสินดาบเซเบอร์นั้นพึงระลึกว่าโอกาสที่จะเป็น Simultaneous นั้นมีโอกาสน้อยมาก หลักการที่ว่านี้ประกอบด้วย 2 ทฤษฎี

 

          ทฤษฎีที่ 1 Fencing Time หนึ่งห้วงเวลาจังหวะดาบ (1 เพลงดาบ) ถ้านักดาบคนใดที่       ทำ Action Fencing Time (True Tempo) ได้ตามกระบวนการแล้ว  อีกฝ่ายหนึ่งไม่     สามารถชิงจังหวะใดๆในการเข้าทำได้เลย

 

          ทฤษฎีที่ 2 True & Fault ห้วงจังหวะ (Tempo) ที่เป็น True นั้น การดำเนินการของจุด      4 จุดของนักดาบจะต้องต่อเนื่องกันดังนี้  1 มือ(บังคับดาบคุกคามเป้าเคลื่อนเข้าหา   เป้าหมาย)  2 แขน 3 ตัว และ 4 เท้า (เท้าหน้าตามด้วยเท้าหลัง)จึงจะถือว่าเป็น 4    True  แต่ถ้าใน 4 จุดของการเคลื่อนที่นี้ไม่ได้เริ่มจากจุดที่ 1และสลับกันไปกันมา      ระหว่าง 2 หรือ 3 หรือ 4 นั้นให้ถือเป็น 4 Fault ถือเป็นเพียงแค่การเตรียมการ

 

ในมุมมองของผู้ตัดสิน การพิจารณานักดาบที่เข้าทำ ถ้านักดาบที่เข้าทำชิงจังหวะ ดำเนินการตามทฤษฎีที่ 2 ได้ก่อนและถูกต้อง ก็จะได้ทฤษฎีที่ 1 ตามมาโดยอัตโนมัติ กรณีนี้ถ้านักดาบฝ่ายตรงข้ามดำเนินการเข้าทำตอบโต้สำเร็จ ถือว่าเป็นการสวนดาบ ผู้เข้่าทำได้แต้ม แต่ถ้านักดาบที่เข้าทำดำเนินการในทฤษฎีที่สองผิดพลาดแม้จะชิงจังหวะได้ก่อนก็ตาม ก็จะเป็นผลให้ไม่ได้ทฤษฎีที่ 1 ฝ่ายตรงข้ามเข้าทำตอบโต้สำเร็จจะเป็นการสกัดไปโดยปริยาย ผู้เข้าทำเสียแต้ม มองแล้วทั้งสองกรณีคล้ายทำความพร้อม แต่ถ้าสังเกตุดูให้ดีจะมีนักดาบคนหนึ่งที่ดำเนินการก่อน (ไฟเครื่องตัดสิน จะแสดงไฟขึ้นทั้งสองข้าง)

"กล่าวโดยสรุปคือ

ถ้านักดาบคนหนึ่งชิงจังหวะเข้าทำ ได้ห้วงเวลา Fencing Time นักดาบฝ่ายตรงข้ามทำตอบโต้ถือเป็นสวนดาบ

ถ้านักดาบคนหนึ่งชิงจังหวะเข้าทำ แต่ไม่ได้ห้วงเวลา Fencing Time นักดาบฝ่ายตรงข้ามทำตอบโต้ถือเป็นสกัด"

 

ในมุมมองของผู้ฝึกสอน คือการให้สัญญานในการล่อเป้า โดยส่งสัญญานให้นักดาบเข้าใจว่าจังหวะไหนคือ True จังหวะไหนคือ Fault อาจเริ่มจากวงกว้างเพื่อสื่อสารให้นักดาบเข้าใจและทำให้แคบและไวจนเหมือนจริง ประการสำคัญคือนักดาบต้องรู้ว่าจะต้องทำอะไร ในจังหวะที่ตัวเองได้เปรียบหรือเสียเปรียบ โดยปกติแล้วผู้ฝึกสอนจะไม่ใช้เสียง แต่ใช้การสื่อสารที่สัมพัทธ์ (จังหวะที่สัมพันธ์กัน) เพราะเมื่อลงแข่งบนสนามประลองคู่ต่อสู้ของเราเขาก็ไม่ใช้เสียง เขาใช้อาการเยื้องย่างดังพยัคฆ์เพื่อรอะตะปบเหยื่อ