

๐ ทำไมต้องศึกษาระบบของต่างประเทศ? ผลจากการสัมมนาใน 30
ส.ค.52 ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
พบว่าสิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดสำหรับวงการฟันดาบของเราก็คือ
การขาดแคลนโค้ชฟันดาบที่มีความสามารถ
ทางสมาคมจึงเร่งศึกษาโครงสร้างการพัฒนาโค้ชของประเทศดาวรุ่งอย่างสหรัฐฯ เพื่อนำมาใช้เป็นแบบอย่างในการพัฒนาโค้ชฟันดาบอาชีพของเรา
จากบทความของพันเอกจักราวุธ
การพัฒนาโค้ชระดับปรมาจารย์หรือที่ฝรั่งเขาให้เกียรติมากจึงให้คำนำหน้าว่ามาสเตอร์
หรือ แมตเตรอ นั้น จะต้องผ่านการเรียนและการฝึกมากถึง 5 ปี
ทีเดียวเรียกว่าพอพอกับการเรียนปริญญาตรี ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่เข้ารับการศึกษาจะต้องจัดทำวิทยานิพนธ์อีกด้วย
จึงเห็นได้ชัดเจนว่าการเป็นแมตเตรอ หรือ
ปรมาจารย์ดาบนั้นไม่ใช่แค่เน้นในทางปฎิบัติเท่านั้นแต่ยังเน้นทฤษฏีดาบและการทำวิจัยด้วย
ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าการวางรากฐานของฟันดาบมันแข็งแกร่งมาก
เพราะการวิจัยพัฒนาเท่านั้นที่จะทำให้วงการฟันดาบก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
เช่นเดียวกับการพัฒนาวงการฟันดาบของอิตาลีและฝรั่งเศสที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยการคิดเป็นเหตุเป็นผลนอกเหนือจากความเชื่อและความสวยงามของดาบ
หากว่าเรายังคงงมงายในท่าทางของดาบโดยไม่คำนึงถึงเหตุและผลก็ยากที่เราจะก้าวสู่แถวหน้าของวงการฟันดาบโลก
ไม่ผิดอันใดกับการพัฒนาประเทศ
หากขาดซึ่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็จะเป็นได้แต่เป็นประเทศผู้ตามเท่านั้น
แต่ถ้าจะเป็นอย่างเกาหลี หรือญี่ปุ่น แล้วจะต้องมีศาสตร์เป็นของตนเอง
สำหรับวงการฟันดาบแล้วแน่นอนพวกที่เป็น Elite หรือพวกหัวหอกก็คือ
แมตเตรอ นี่เอง
๐ ตัวอย่างการใช้โมเดลพัฒนาของต่างประเทศ บางท่านอาจจะแย้งว่าทำไมเราต้องศึกษาระบบของเขาละ ผมจะขอยกตัวอย่างประวัติศาสตร์บางอย่างให้ท่านได้คิดดูบ้างว่าทำไมญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศเอเซียที่ก้าวล้ำกว่าใครๆ
ก็เพราะว่าญี่ปุ่นหลังจากถูกกองเรือของนายพลเปอรรี่ของสหรัฐฯ
บังคับให้เปิดประเทศตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 ของเรานั้น
ญี่ปุ่นได้ส่งนักศึกษาจำนวนมากไปศึกษาวิชาการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการปกครองในยุโรปและสหรัฐ
แล้วนำไปปรับปรุงระบบการปกครองและการศึกษาของตน
เรียกได้ว่ากลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่จนกลายเป็นมหาอำนาจก่อนที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่
1 ยิ่งไปกว่านั้น ญี่ปุ่นยังสั่งสอนรัซเซียด้วยการทำลายกองเรือรัซเซียอย่างย่อยยับ
ณ ช่องแคบซิชูม่า และสามารถยึดท่าเรือที่สำคัญของจีน เขตปกครองในแมนจูเลีย
และเกาหลี จนมหาอำนาจยุโรปและสหรัฐฯ
จำเป็นต้องยอมรับความยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นในเวลานั้น
นี่ไงที่การศึกษาตัวอย่างของประเทศที่เจริญแล้วนำมาปรับใช้ย่อมจะทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด
ซึ่งสมัยนั้นพระเจ้าอยู่รัชการที่ 4 ของเราก็ได้ดำเนินกุศโลบายอย่างเดียวกัน
จนทำให้ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ 5
๐ ทำไมจึงต้องลำดับชั้นโค้ช? ที่ผมยกตัวอย่างมานั้นก็เพื่อให้เราเห็นถึงความจำเป็นว่าทำไมเราจึงจะต้องศึกษาในความก้าวหน้าของกิจการฟันดาบของประเทศเหล่านี้
แล้วคิดนำมาปรับปรุงวงการฟันดาบบ้านเราให้มีรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน
สำหรับบทความนี้ ผมจะเน้นที่การพัฒนาผู้ฝึกสอนระดับต่ำสุดหรือ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน (Assistant
Instructor) เป็นที่น่าสังเกตุว่า
เขาไม่ใช้คำว่าครูดาบกับโค้ชในทุกระดับ ก็เพราะว่าถ้าทำอย่างนั้น
มันจะทำให้ความสำคัญของโค้ชในทุกระดับเท่ากันหมด เช่นเดียวกับในมหาวิทยาลัย
หากเราเป็นครูที่จบการศึกษาในระดับปริญญาโทแล้วยังไม่เคยทำผลงานวิจัยใดๆ
เขาก็เรียกว่าเป็นเพียง Instructor เท่านั้น
แต่การจะเรียกว่า Professor นั้น
จะต้องมีประสบการณ์ด้านการวิจัยและพัฒนามาอย่างโชคโชน
อีกทั้งมักจะจบการศึกษาระดับปริญญาเอก ครูบางคนก็อาจจะต้องเป็น Instructor ตลอดชีวิต แต่บางคนอาจจะยังอายุไม่เท่าไร ได้เป็น Professor แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลงานของเขานั่นแหละ
๐ ครูดาบไม่ต้องรู้ทางทฤษฎีได้หรือไม่? ในวงการฟันดาบก็เช่นกัน
เขาจะให้ใช้คำว่าครูดาบก็ต่อเมื่อ โค้ชผู้นั้นมีความรู้ทางทฤษฎีและปฏิบัติที่มากพอ
มีบางคนอาจโต้แย้งว่าไม่เห็นจะต้องมีทฤษฎีอะไรเลย ก็ปฎิบัติได้เลยและเก่งไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหาอย่างไร
ผมก็ขอให้ข้อคิดว่า หากเป็นนักกีฬาก็คงไม่เป็นปัญหา
แต่โค้ชจำเป็นต้องรู้ลึกซึ้งกว่านักกีฬา เพราะจะเป็นคนสอนเขา
ยิ่งพวกแมตเตรอไม่เพียงแต่จะสอนเท่านั้น
แต่จะต้องค้นคิดประดิษฐ์เทคนิคการใช้ดาบใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะถ้าไม่มีการคิดก็จะเป็นไดโนเสาร์ในที่สุด
๐ จำนวนผู้ช่วยครูฝึกที่เหมาะสม สำหรับโค้ชระดับต่ำสุดในวงการฟันดาบก็คือ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน
ซึ่งเขายังไม่ถือว่าเป็นโค้ชอาชีพ ส่วนโค้ชอาชีพนั้นจะเริ่มที่ มอนิเทอร์-ผู้ฝึกสอน (Moniteur) เปรวู-ครูดาบ
(Pr?v?t) แมตเตรอ (Maitre) หรือปรมาจารย์ดาบ
หรือ Fencing Master เนื่องจากผู้ช่วยผู้ฝึกสอนอยู่ในเกณฑ์ล่างสุดที่เราอาจจะพัฒนาขึ้นมาได้และมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการพัฒนานักกีฬารากหญ้า
ดังนั้นทางสมาคมจึงให้ความสำคัญมากในการผลิตอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สามารถสอนให้กับนักกีฬาฟันดาบทั่วประเทศ
โดยเขาจำนวน 1 คน สามารถที่ฝึกนักกีฬาได้ 16 คน หากต้องการผลิตนักกีฬาฟันดาบรากหญ้าก็ให้ได้ 5000
คน ก็จะต้องมีผู้ช่วยครูฝึกอย่างน้อย 250 คน
๐ คุณสมบัติของผู้ช่วยครูฝึก ถามว่าผู้ช่วยครูฝึกต้องคุณลักษณะที่สำคัญอะไรบ้าง คำตอบก็คือ (1) ความสามารถในการฟังคำสั่งจากผู้ฝึกสอน (2) มีความความชำนาญในเทคนิคการฟันดาบที่ถูกต้องและมีร่างกายแข็งแรง
(3) มีขีดความสามารถในการสื่อสารกับผู้ฝึกสอนทั้งด้วยวาจาและท่าทาง (4) มีความสามารถในการจัดองค์กร (5) เป็นคนที่เชื่อถือได้อย่างมั่นใจ
(6) เป็นบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่ (7) เป็นผู้ที่ฝักใฝ่และสนใจที่จะเป็นผู้ฝึกสอน ครูดาบหรือ ปรมาจารย์ดาบในอนาคต (8) เป็นคนสุขุมและมั่นใจในตัวเอง (9)
เป็นบุคคลที่หวังพึ่งพิงได้เสมอ
๐ ศักยภาพในอนาคต คุณลักษณะทั้งเก้าประการนี้คือ บุคคลที่จะสามารถเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนได้
และมีศักยภาพที่จะก้าวไปเป็น ผู้ฝึกสอน ครูดาบและปรมาจารย์ดาบในอนาคตต่อไป
สำหรับคราวหน้าผมจะได้ลงลึกในรายละเอียดมากยิ่งขึ้นครับ